ABOUT BANKHONRAKROD

BRAND

เกี่ยวกับแบรนด์ บ้านคนรักรถ

ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ บ้านคนรักรถ

"ความเป็นมาบ้านคนรักรถ เดิมที ผมทำงานประจำที่โรงไฟฟ้า ราชบุรี ครับ"

ประวัติความเป็นมา ประวัติความเป็นมา แบรนด์ "บ้านคนรักรถ"

                 สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมของแนะนำตัวก่อนครับ ผมชื่อ “โน้ต” นะครับ    เป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ “บ้านคนรักรถ” ขึ้นมา  วันนี้ผมจะมาเล่าถึงความเป็นมาของ บ้านคนรักรถกันนะครับ ว่าทำไม ร้านเราถึงได้การยอมรับจากกลุ่มลูกค้า        ทุกประเภท โดยเฉพาะลูกค้าที่รักรถและชื่นชอบความเนี๊ยบในการทำงานครับ

                  คำว่า “บ้านคนรักรถ” ที่ผมตั้งชื่อขึ้นมานั้น เพราะว่าเริ่มต้นของการ ทำงานครั้งแรก ผมเริ่มล้างรถ ขัดสี เคลือบสีรถของลูกค้าจากโรงรถในบ้าน   ของผมครับ ซึ่งคุณพ่อผมเป็นคนที่ชอบล้างรถเคลือบสีรถเอง เป็นประจำตั้งแต่ สมัยผมยังเด็กๆ ซึ่งผมเองก็มีนิสัยเช่นเดียวกับคุณพ่อผมครับ แต่ว่าผมต่อยอดขึ้นไปอีก จนเป็นบ้านคนรักรถจนถึงทุกวันนี้

และด้วยความที่ผมเป็นคนชอบหารายได้เสริม และเรียนสายคอมพิวเตอร์ธุรกิจมา ผมก็รับซ่อมคอมพิวเตอร์และประกอบคอมฯ รับลงโปรแกรม  เดินระบบ network ไปด้วย และระหว่างทำงานประจำที่โรงไฟฟ้า ทำไปทำมาจนกระทั่งมีแมวมองมาชวนผมไปเดินแบบ ถ่ายละครเป็นตัวประกอบ  อยู่สักระยะเวลานึงครับ

งานถ่ายละครก็มา ละครเรื่อง "แสงดาวกลางใจ" ช่อง 3 แสงดาวกลางใจ ละครซีรี่ย์ ลูกไม้ของพ่อ

และแล้ว…จุดเปลี่ยนมาอยู่ตรงนี้ครับ เมื่อผม ซื้อรถยนต์คันแรกครับ Toyota Vios สีขาว ใช้ได้ไปสักระยะนึงและก็มีเพื่อนมาบอกครับว่า เฮ้ย โน้ต รถสีขาว มันจะเหลืองนะเว้ย เวลาใช้ไปนานๆ เอ็งต้องหมั่นเคลือบสี ขัดสีเป็นประจำ ไอเราก็ ใช้รถมาสักระยะนึงแล้วก็กลัวรถสีขาวจะเหลือง จึงหาซื้อน้ำยาจาก Lotus มาเคลือบเองอยู่บ่อยๆ แต่เรื่องการขัดสีนั้นนะหรอ เราทำไม่เป็น !!! เราก็เลยไปสอบถามราคาตามคาร์แคร์ชั้นนำ แต่ว่าราคาขัดสีนั้นมัน ก็อยู่หลักประมาณ 2,xxx กว่าบาท ซึ่งไอตัวเราตอนนั้นก็เงินเดือนแค่ 12,xxx จะไปขัดสีทีนึงก็กลัวจะไม่มีเงินผ่อนรถ และส่วนตัวเป็นคนแนวประหยัดก็เลยเปลี่ยนความคิด เราเอาเงิน 2,000 ไปซื้อเครื่องขัดสีและซื้อน้ำยาตามห้างมาขัดเอง ดีกว่า

คิดคำนวนดูแล้วขัดได้หลายรอบ 10-20 กว่ารอบ จากการลงทุนที่เท่ากัน คุ้มกว่าไปจ้างเค้าขัดอีก แต่ต้องลงแรงหน่อยและสุดท้ายครับ เราก็ได้ซื้อ เครื่องขัดสีมาลองดูซึ่งมันไม่หมูเลย ผมขัดครั้งแรกทักษะก็ไม่มี มีแต่ใจอย่างเดียว สรุปครับเละเทะเลอะเทอะไปหมด เหนื่อยมากๆ และงานก็ไม่สวยด้วย ผมเลยเก็บเครื่องขัดสี เข้ากรุเลยไปเป็นปีครับ จนผมมาเปลี่ยนรถใหม่เป็น Altis สีขาวครับ ซึ่งเหมือนเดิม ต้องขัดสีแล้วสินะ ใช้มาพักนึงละ แต่ครั้งนี้ เราเตรียมตัวหน่อย เราต้องศึกษาก่อนทำงาน เลยไปเปิดดู Youtube อ่านทฤษฏีเยอะๆ โอโห้ มันเยอะขนาดนี้เลยหรือทั้งตัวน้ำยามีหลายเบอร์ แป้นขัดหลายประเภท เครื่องขัดก็หลายแบบ แต่ว่า มันเป็นสิ่งที่เราชอบหนิครับ เราก็ตั้งใจศึกษามัน ลองผิดลองถูกมาตลอด จนเราทำรถเราได้ และออกมาดี จากนั้นผมก็ไปหยิบจับทำรถของคุณพ่อผมต่อ ซึ่งเป็นรถสีดำ Nissan Sunny Neo ขัดออกมาเป็นที่น่าพอใจไม่แพ้ร้านใหญ่ๆ ที่เค้าทำกันเลย หลังจากนั้นผมก็โพสต์รูปรถที่ผมขัดสีลง Facebook ส่วนตัว ต่อจากนั้นก็มีพี่คนนึงใน facebook ทักแชทมาและบอกว่า “โน้ต อาทิตย์หน้าว่างมั้ย มาเอารถพี่ไปทำมั่ง” นั่นหละครับเราเริ่มมีรายได้ จากนั้นก็เอางานโพสต์ลงเฟสบุ๊คส่วนตัวเรื่อยๆ ก็มีเพื่อนๆ ให้ความสนใจและเริ่มนัดคิวทำกันอย่างต่อเนื่องครับ เล่นซะวันหยุดงานของผม เสาร์-อาทิตย์ ไม่ว่างกันเลยทีเดียว

ขัดทุกวันหยุดงาน ขัดไปขัดมาจนรายได้เสริมแซงเงินเดือนโรงไฟฟ้า (ตอนนั้นทำโรงไฟฟ้า เงินเดือน 12,000-) เราก็ทำไปเรื่อยๆ จนงานเริ่มล้นครับ ทั้งๆ ที่รับขัดสีในโรงรถบ้านตัวเองแท้ๆ ในหมู่บ้านจัดสรรที่ไม่ใช่ใครจะแวะเข้ามา จนเริ่มลางานโดยใช้วันหยุดพักผ่อนมารับงานขัดสี จนทำได้แบบนี้ประมาณ 4 เดือน ก็ตัดสินใจลาออกจากโรงไฟฟ้าครับ เนื่องจากรายได้เสริมมากกว่าเงินเดือน 2 เท่า

ขัดไปขัดมา รถมาจอดรอหน้าบ้านเต็มไปหมด นึกว่าที่บ้าน จัดงานขึ้นบ้านใหม่ และเป็นสภาพแบบนี้เกือบทุกวัน

ต้องเริ่มจ้างคนมาช่วยงานที่ร้าน และฝึกคนเพื่อรองรับก่อนเปิดร้าน “บ้านคนรักรถ ราชบุรี” ที่อยู่ในตัวเมือง ราชบุรี

ระหว่างทำงานก็ได้รู้จักผู้คนและกลุ่มคนใน Club ใน Thaiwasher ของคนที่รักและดูแลรถกันและได้ไป meeting กัน แลกเปลี่ยนความรู้กันใน Club ใน Club นี้ มีแต่ระดับ แนวพระกาฬของเมืองไทย

หลังจากที่ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาสักระยะนึงแล้ว ก็ได้ยินคำว่า "เคลือบแก้ว" ซึ่งตอนนั้นในจังหวัดราชบุรี ยังไม่มีเลย แต่ใน กทม. เริ่มมีกันแล้ว ผมจึงศึกษา หาความรู้เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถ รับงานเคลือบ แก้วได้ และผมมั่นใจว่า ผมน่าจะเป็นเจ้าแรกๆ ที่สามารถเคลือบแก้วในจังหวัดราชบุรี เคลือบได้ ก่อนร้านคาร์แคร์ใหญ่ๆ ในจังหวัดจะเริ่มทำกัน เสียอีก และก็มีลูกค้าให้ความสนใจ มาใช้บริการ กันเป็นจำนวนมากครับ

ลูกค้าเคลือบแก้วคันแรกของผม พี่ยุ้ยครับ จบราคาเคลือบแก้ว 7H ไปในราคา 14,000- ตอนที่เริ่มทำเคลือบแก้วนั้น เป็นปี 2014

ส่วนคันนี้ Toyota Camry เป็นรถเคลือบแก้ว คันที่ 2 ของผมครับ และก็มีคันที่ 3-4-5 ตามมาเรื่อยๆ ครับ

สรุปได้ดำเนินการธุรกิจ บ้านคนรักรถ ที่อยู่ในโรงรถที่บ้าน ได้ประมาณ 1 ปีเต็ม ก็ได้หาที่ทางในตัวเมืองราชบุรี เพื่อเปิดร้าน บ้านคนรักรถ ในช่วงปี 2015 และแล้ว ก็มาได้ที่ดินเปล่าติดมัสยิด เส้นดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี  เนื้อที่ประมาณ 348 ตารางวา และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของร้าน บ้านคนรักรถ ราชบุรี สำนักงานใหญ่ ครับ

และนี่ก็คือโฉมร้านในช่วงแรก หน้าร้านเรามีเพียงเท่านี้ แต่ได้การตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่รักรถเป็นจำนวนมาก  มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการทั้ง ล้างรถ เคลือบสี ขัดสี เคลือบแก้ว เป็นจำนวนมาก

หลังจากได้ดำเนินกิจการ บ้านคนรักรถ ราชบุรี มา 2 ปี ก็ได้ตัดสินใจขยายร้านครั้งใหญ่ ด้วยการสร้างโชว์รูมด้านหน้า เพื่อไว้รองรับลูกค้าและโชว์ผลงานที่ทำเสร็จแล้ว มาจอดโชว์ด้านหน้าร้าน

และได้เปลี่ยนที่พื้นคาร์แคร์ เป็นห้องเคลือบแก้วขนาดใหญ่ สามารถรองรับงานเคลือบได้วันละ หลายๆคัน และในที่สุด บ้านคนรักรถ ราชบุรี ก็เป็นศูนย์คาร์ดีเทลลิ่งที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดราชบุรี

บ้านคนรักรถ ราชบุรี สาขา2

หลังจากที่ได้ดำเนินกิจการ บ้านคนรักรถ ราชบุรี มาประมาณ 4 ปี พื้นที่ในร้าน ก็ไม่สามารถรองรับลูกค้าได้อีกต่อไป ทางผมจึงได้ให้เพื่อนมาเปิดคาร์แคร์ใกล้ๆ กัน โดยใช้ชื่อ “บ้านคนรักรถ สาขา 2” ซึ่งอยู่ห่างจาก บ้านคนรักรถ ที่แรกเพียง 1 กม. เมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 นาที เพื่อรองรับงานที่ล้นจากสาขา 1 มา

ซึ่งตั้งอยู่ที่ ถนนท้าวอู่ทอง บริเวณปั๊มน้ำมันเก่า พื้นที่สาขานี้จะตั้งรวมกับ ร้านอาหารญี่ปุ่น กินจุ

บ้านคนรักรถ ราชบุรี สาขา2 ได้ดำเนินกิจการมาประมาณ 9 เดือน เจ้าของสาขาก็เกิดปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมพนักงานเป็นอย่างมาก เรื่องลูกน้องเปลี่ยนบ่อย อู้งานและงานมาตรฐานตก รายได้ไม่เป็นไปตามเป้า ตัวผม โน้ต บ้านคนรักรถ จึงได้เข้ามาซื้อหุ้น 50% และได้เข้าไป Action ทุกอย่างด้วยตนเอง 

จุดแยกตัวออกจากที่เก่า และมาเริ่มต้นใหม่ที่ จ.เพชรบุรี

หลังจากได้ดำเนินกิจการ บ้านคนรักรถ มาเป็นเวลา 7 ปี ก็มาถึงจุดแตกหักภายในครอบครัว ในการบริหารแบบกงสี แต่ตัวเราทำงานเพียงคนเดียว ผมโน้ต จึงได้แยกตัวออกจากสาขาราชบุรี สำนักงานใหญ่ มาเปิดร้านของตัวเองที่ไม่ได้อยู่ในระบบกงสี ที่จังหวัดเพชรบุรี ในช่วงเดือน กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จนถึงปัจจุบัน โดยคุณพ่อยังคงบริารจัดการอยู่ที่เดิมสาขาสำนักงานใหญ่ราชบุรี จนกระทั่งถึงวันที่ 8 กันยายน 2564 คุณพ่อ ไม่สามารถบริหารจัดการร้านต่อไปได้ ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งความชำนาญ การกำกับดูแลพนักงาน รวมถึงคุณภาพงาน จึงตัดสินใจขายกิจการนี้ให้กับคนอื่น (เป็นคู่แข่งในพื้นที่อยู่แล้ว) มารับช่วงต่อ รวมทั้ง ฐานข้อมูลลูกค้าเก่าๆที่เคยใช้บริการไปทั้งหมด และทีมงานเดิมบางส่วนอีกด้วย 

ภาพรวม ณ ปัจจุบัน ของ บ้านคนรักรถ ทั้งหมด

โดย เจ้าของใหม่ที่มาเซ้ง มีเงื่อนไขคือห้ามใช้ชื่อเดิมของผม “บ้านคนรักรถ” เจ้าของใหม่เลยเปลี่ยนชื่อ โดยการเอาคำว่า “บ้าน” ออก เหลือคำว่า “คนรักรถ” แทน ซึ่งมีลูกค้าจำนวนมากที่เข้าใจผิดนึกว่าเป็นเจ้าของเดิมอยู่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ในการเคลือบและฟิล์มใสกันรอย ก็ได้เปลี่ยนแบรนด์เปลี่ยนค่ายไปด้วย ซึ่งเท่ากับว่า ตอนนี้ สำนักงานใหญ่ ได้ย้ายมาอยู่ที่เพชรบุรี อย่างเต็มตัว และสาขา 2 จังหวัดราชบุรี ที่เป็นสาขารอง ยังคงอยู่ที่เดิม ตรงร้านอาหารญี่ปุ่นกินจุ และได้มีการพัฒนาศักยภาพของสาขา 2 ราชบุรี ให้สามารถทำงานได้เทียบเท่ากับ สาขาสำนักงานใหญ่ เพชรบุรี เพื่อให้ลูกค้าเดิมๆ สามารถแวะเข้าใช้บริการที่จังหวัดราชบุรี ได้โดยที่สาขา 2 ผมจะมีหุ้นส่วนอยู่ 50% และของคุณพงศ์ เพื่อนสนิทอีก 50% และทางผมได้ให้คุณพงศ์ลาออกจากงานประจำมาเพื่อมากำกับดูแลสาขานี้อย่างใกล้ชิดด้วยตัวเองครับ